กลอนรับลมหนาว
ฤดูหนาวของ สาว-หนุ่ม
ชีวิตเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว
การเก็บเกี่ยวเรื่องราวของสาว-หนุ่ม
ร่าเริง สดใสในบางมุม
ความเหงาเข้าปกคลุม, ดุ่มเดินทาง
ในยามสนธยาแห่งชีวิต
เจือปนด้วยหนามพิษ จิตกระด้าง
กลิ่นอายหมอก
หยอกพัดสัมผัสวา ทุกอณูของร่าง อย่างช้า-ช้า
เดินทางด้วยหัวใจ… พักพิงในคำตอบ
ลับขอบฟ้า
ความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยว
ถูกเยียวยา ขณะที่ลืมตา มาอีกครั้ง
ฤดูหนาวของสาว-หนุ่ม
ความอบอุ่น เข้าวาดอาจพลาดพลั้ง
เก็บหัวใจหนึ่งดวง สู่รวงรัง
ผ่านสายลมความหวังอันว่างเปล่า
ต่างคนต่างข้ามสะพานสูง
ขึ้นไปจูงดวงจันทร์
ปันความเหงา
พยายามใกล้ชิดชีวิตเรา
เพื่อแบ่งเบาความท้อ ต่อเส้นทาง
ถักอากาศเป็นเสื้อคลุมเข้าสวมกอด
วาดจุดหมายปลายยอด
ตลอด, ร่าง
ในฤดู หนาวเหน็บ เก็บมาวาง
แขวนอยู่ข้างหน้าต่าง
อย่างห่วงใย
ลมเหมันต์ผันผ่านหวั่นใจนัก กลัวคนรักจากลาวาจาเผย
กลัวลมหนาวหอบพัดรัดคนเคย หนุนเขนยเกยกอดยอดยาใจ
วอนสายลมพรมพร่างพาพัดกลับ ฉันจะนับวันรอขอได้ไหม
ช่วยจงพัดพาคำนำคนไกล กลับมาใหม่เหมือนเคยเลยขอวอน
....นางฟ้า ชาลี...
***********************************************************************
สายลมหนาว โอบล้อม
พร้อมกลุ่มหมอก ผ่านมุมซอก ขุนเขา พราวไสว
โพ้นขอบฟ้า อ่างขาง ช่างแสนไกล ฝากดวงใจ ในหมอก บอกคนรอ
แม้นอยู่ไกล สุดแสน แดนฝั่งฟ้า
รับรู้ว่า ดวงจิต คิดถึงหนอ
พลังใจ คนรอ ขออย่าท้อ
สัญญาข้อ หวลกลับ
นับวันคืน
กระท่อมน้อย คอยนาง บ้านกลางป่า
รอเวลา รักหวน ทวนหวานชื่น
ดวงใจไม่ คิดปัน ผันเป็นอื่น ดึกดื่นตื่น ร่ำหวน จวนขาดใจ
ฝากสายลม หมอกขาว นำข่าวส่ง
ถึงดอนดง รอกลับ
รับขวัญใหม่
อีกไม่นาน หนาวนี้ จะกลับไป พร้อมห่วงใย พร้อมฝัน วันรอคอย
..กุสุมา..
**********************************************************************
ต่างลาร้างห่างไกลไปหลายปี ต่างวิถีสัมมาอาชีวะ
ต่างคนต่างแบกหามซึ่งภาระ
ต่างไม่ละคำนึงคิดถึงกัน
ก็ด้วยเราครองรักปักสัญญา ก็ด้วยว่าซื่อสัจมัดรักมั่น
ก็ด้วยเราเชื่อใจไม่แปรผัน
ก็ด้วยฉันและเธอเจอความดี
คิดถึงกลิ่นหอมย้อมรักสองเรา คิดถึงราวระเบียงน้องเคียงพี่
คิดถึงดอกแก้วและดอกราตรี คิดถึงที่เราสองประคองนอน
ถึงแม้วันเวลาจะลาร้าง ถึงระยะทางห่างคำอ้อนวอน
ถึงลมหนาวบอกข่าวให้บังอร
ถึงลมจรพี่ยังรอขอพบเธอ
*********************************************************************
ขอบคุณบทกลอนดีๆจาก http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=17762.0